Price:100,000.00 Baht
										 
										
										 
										 
										 喬祖父勳章,榮邦寺,13 年,銅,金萊
										父親 Than Kheow 勳章,洛坤府榮邦寺,第一版,1970 
										年(銅和金肩),原裝精美。
										歷史簡介 :
										丹喬神父是洛坤府的著名僧人,1881年出生,在空卡瓦迪寺出家。 
										與非教務長在同一所學校受戒和學習 並開光了第一版 Phra Khru Non 
										這是一枚德高望重的錢幣 和那空是貪瑪叻市的另一枚著名硬幣 
										丹喬神父於1976年辭世,享年95歲,享年74歲。本廟為丹喬神父舉行火葬儀式。 
										但事實證明它更重了。 因為大火根本沒有燒到格林父親的屍體。 
										而每天,你的遺體還被裝在一個琉璃廠裡供八方信他的弟子頂禮膜拜。 
										誰的身體不腐爛,不腐爛 是泰國的佛像之一
										第一代勳章,洛坤府榮邦寺Than Khiao神父 由 Phra Ajarn 
										Kham 創建 的 Wat Hong Kaew 
										請求丹喬神父的許可,製作了5000枚銅錢和金幣,呈獻給丹喬神父,讓他分發給一些弟子。 
										如今,這些錢幣非常稀有,價格也很高。 這枚硬幣肯定有未來。
										佛陀:在無敵的一邊 保護免受各種武器 在背面,學習在外面寫上 Maha Ud 
										護身符“Udthang Attho”。 並在護身符中 
										這就像有一個玻璃盔甲一樣可以抵禦危
										
										北大年府 Khok Pho 縣 Thung Phala 街道 
										Arunwasikaram 寺(Huay Ngo 寺)喬神父
										丹喬神父的身世,1929年出生於也拉府Mueang區Na Tham街道,父名Mr. 
										Thong Petch Phakdi,母名Mrs. Kim Petch 
										Phakdi,出生於也拉府的一個農民家庭。 3 1949 年 6 月 6 
										日,北大年府湄蘭縣 Wat Nang O,即現在的 Wat Bupnimit,共有 
										7 人,直到他們 20 歲,他們根據傳統在 Wat Nang O 出家,與 
										Phra Kru Manoon. Na Pradu 寺的 Phra 
										Athikarn Daeng Thammachoto 是 Phra 
										Kamwajacharn Phra Athikarn Thong 
										Chanthachoto Wat Phamornkatiwan 是 Phra 
										Anusawanachan。
										
										出家為黃袍時,丹丘神父住在南澳寺的大齋期。 
										他在其中度過了與僧侶活動無關的空閒時間 學習在各個重要章節中祈禱。 
										包括以南方風格吟唱巨大的帕納 今天不常見的 
										和往常一樣,直到第二個雨季,丹喬神父搬到也拉府拉曼縣的Sunthorn 
										Buncharam 寺,在第三個雨季,丹喬神父又搬回Wat Nang O。 
										跟隨擅長反省的外行“塔利亞姆”學習各種魔法科目。 
										此外,在那個地區學習魔法的人還有無數其他科目。
										
										
										
										在佛法方面,陳喬神父修行嚴謹。 學習巴利文經典、語法和佛法 
										包括誦經。因此,丹覺神父從第5個雨季開始就能夠念誦Patimokkha,並被任命為Wat 
										Nang O的代理住持。 直到後來成為方丈
										
										他與 Phrakru Wisaisophon 或 Phra Ajarn Tim 
										長海寺方丈 與親密 好客 總是來看對方 兩座寺廟之間的距離並不遠。 通過參加儀式 
										佛法對話,總是參加各種儀式,尤其是當 Phra Ajarn Tim, Wat 
										Chang Hai 於 1954 年製作了第一批 Luang Pu Thuat 
										佛像,分發給參與建造 Wat Chang Hai Ubosot 的人們。 
										通過將肉與萬混合 並參加盛佛大典
										 เหรียญหลวงปู่เขียว 
										วัดหรงบล ปี 13 ทองแดงกะหลั่ยทอง
										เหรียญพ่อท่านเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช 
										รุ่นแรก ปี พ.ศ. 2513 (เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง) 
										สภาพสวยเดิม ครับ
										ประวัติย่อ :
										พ่อท่านเขียว เกจิชื่อดัง 
										แห่งจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อปี 
										พ.ศ.2424 อุปสมบทที่วัดคงคาวดี 
										และได้บวชเรียนร่ำเรียนวิชาสำนักเดียวกันกับพระครูนนท์ 
										และได้ร่วมปลุกเสกเหรียญรุ่นแรกของพระครูนนท์ 
										ซึ่งเป็นเหรียญที่มีพุทธคุณสูง 
										และมีชื่อเสียงอีกเหรียญหนึ่งแห่งเมืองนครศรีธรรมราช 
										พ่อท่านเขียวมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2519 
										สิริรวมอายุได้ 95 ปี พรรษาที่ 74 
										ทางวัดได้ทำพิธีเผาสรีระพ่อท่านเขียว 
										แต่ปรากฏว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งหนัก 
										เพราะว่าไฟไม่ได้ไหม้สรีระของพ่อท่านเขียวแม้แต่น้อย 
										และทุกวันนีสรีระของท่านก็ยังได้บรรจุไว้ในโรงแก้วให้ยานุศิษย์จากทุกสารทิศต่าง 
										ๆ ที่นับถือศรัทธาท่านได้ไปกราบไหว้ 
										ซึ่งสรีระของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย 
										เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งของเมืองไทย
										สำหรับเหรียญรุ่นแรกพ่อท่านเขียว วัดหรงบล 
										จ.นครศรีธรรมราช 
										จัดสร้างโดยท่านพระอาจารย์ขำ 
										แห่งวัดหงส์แก้ว 
										ขออนุญาตพ่อท่านเขียวจัดสร้าง จำนวน 5,000 
										เหรียญ 
										ซึ่งมีเนื้อทองแดงกะไหล่ทองและนำถวายพ่อท่านเขียวไว้สำหรับแจกแก่ศิษยานุศิษย์จำนวนหนึ่ง 
										ปัจจุบันเป็นเหรียญค่อนข้างหายากและมีราคาสูง 
										เหรียญรุ่นนี้มีอนาคตอย่างแน่นอนครับ
										พุทธคุณ : ทางด้านอยู่ยงคงกระพัน 
										ป้องกันศาสตราอาวุธร้ายนานาประการ 
										และด้านหลังเรียนลงอักขระยันต์มหาอุด "อุดธัง 
										อัดโธ" ล้อมรอบด้านนอก และได้ในผืนยันต์ 
										ซึ่งเปรียบเสมือนมีเกราะแก้วคุ้มกำบังภยันตรายได้เป็นอย่างดี
										หลวงพ่อเขียว 
										วัดอรัญวาสิการาม(วัดห้วยเงาะ) ต.ทุ่งพลา 
										อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 
										สำหรับประวัติของ พ่อท่านเขียว เกิดเมื่อ 
										พ.ศ. 2472 ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา 
										บิดาชื่อนายทอง เพ็ชรภักดี มารดาชื่อ 
										นางกิ๊ม เพ็ชรภักดี 
										ถือกำเนิดในครอบครัวชาวนาใน จ.ยะลา 
										เป็นบุตรคนที่ 3 จากจำนวนทั้งหมด 7 
										คนกระทั่งอายุได้ 20 ปี 
										จึงอุปสมบทตามประเพณีนิยม ณ วัดนางโอ 
										ปัจจุบัน คือ วัดบุพนิมิตร อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี 
										เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2492 ณ พัทธสีมา 
										วัดนางโอ โดยมี พระครูมนูญสมณการ 
										วัดพลานุภาพ เป็นพระอุปัชฌาย์ 
										พระอธิการแดง ธมฺมโชโต วัดนาประดู่ 
										เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทอง 
										จนฺทโชโต วัดภมรคติวัน 
										เป็นพระอนุสาวนาจารย์
										
										เมื่ออุปสมบทครองผ้าเหลือง พ่อท่านเขียว 
										ได้จำพรรษาอยู่วัดนางโอ 
										โดยท่านได้ใช้เวลาที่ว่างจากกิจของสงฆ์ 
										เล่าเรียนการสวดมนต์ในบทสำคัญต่างๆ 
										รวมถึงการสวดภาณยักษ์ในแบบฉบับของภาคใต้ 
										ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยได้พบกันบ่อยนัก 
										เหมือนก่อนแล้ว กระทั่งพรรษา 2 
										พ่อท่านเขียว 
										ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดสุนทรบัญชาราม อ.รามัญ 
										จ.ยะลา พรรษาที่ 3 พ่อท่านเขียว 
										ได้ย้ายกลับมาจำพรรษาที่วัดนางโออีกครั้ง 
										ได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ กับ “ตาเลี่ยม” 
										ฆราวาสที่เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนา 
										อีกทั้งสรรพวิชาจากผู้เรืองพระเวทย์วิทยาคม 
										ในเขตนั้นอีก จำนวนนับไม่ถ้วน
										
										ในทางธรรม พ่อท่านเขียว ปฏิบัติเคร่งครัด 
										ศึกษาด้านปริยัติธรรมบาลีไวยากรณ์และนักธรรม 
										รวมถึงการสวดมนต์ สาธยายธรรม 
										ด้วยเหตุนี้เอง พ่อท่านเขียว 
										จึงสามารถสวดปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่ในพรรษาที่ 
										5 
										ท่านได้รับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดนางโอ 
										จนกระทั่งได้เป็นเจ้าอาวาสในลำดับต่อมา
										
										ท่านได้เป็นสหธรรมมิกกับ พระครูวิสัยโสภณ 
										หรือ พระอาจารย์ทิม เจ้าอาวาสวัดช้างให้ 
										ด้วยความสนิทสนม ชอบพออัธยาศัย 
										ไปมาหาสู่กันเสมอ 
										ระยะทางระหว่างวัดทั้งสองไม่ไกลกันนัก 
										โดยได้ร่วมสังฆกรรม 
										สนทนาธรรมร่วมพิธีกรรมต่างๆ กันเสมอ 
										โดยเฉพาะเมื่อคราวที่ พระอาจารย์ทิม 
										วัดช้างให้ สร้างพระ หลวงปู่ทวด เนื้อว่าน 
										รุ่นแรก เมื่อปี 2497 
										เพื่อแจกแก่ผู้ที่ร่วมสร้างอุโบสถ 
										วัดช้างให้ นั้น พ่อท่านเขียว 
										เป็นผู้หนึ่งที่ได้ร่วมงาน 
										โดยคลุกเนื้อผสมว่าน 
										และร่วมอยู่ในพิธีกรรมเจริญพุทธมนต์.